รายละเอียดข่าวสารที่คุณเปิดอ่าน...

หัวข้อข่าวสาร ที่ คุณกำลังเปิดอ่านอยู่ขณะนี้

::การทำวัคซีนสุกรมีความจำเป็นแค่ไหน::

รายละเอียด:-

###การทำวัคซีนสุกรมีความจำเป็นแค่ไหน###
การเลี้ยงหมูในปัจจุบันมีความค่อนข้างเลี้ยงยากขึ้น อันเนื่องด้วยภาวะโรคต่างๆซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการเลี้ยง
โรคบางอย่างสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง บางโรคชอบฉวยโอกาส บางโรคก็ไม่ตอบสนองต่อยา ดังนั้นระบบการจัดการฟาร์มที่ดีสามารถลดการเกิดโรคใด้ 
       แต่ก็ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่นิยมกันมาก นั่นคือ การใช้วัคซีนควบคุมป้องกันการระบาดของโรค? เป้าหมาย?คือ?เพื่อ?ลด?ความ?รุนแรง?ของ?โรค?และ?เรา?
ต้องทำควบคู่กับการสุขาภิบาลฟาร์มไปด้วย

           เกษตกรรายย่อยที่เลี้ยงไม่เกิน20-30แม่ วัคซีนที่สำคัญและจำเป็นจริงๆ คือ    วัคซีน?พื้นฐาน? เช่น?  อหิวาต์? พิษสุนัขบ้าเทียม และ ปากเท้าเปื่อย เท่านั้นก็น่าจะเพียงพอ ส่วนโรคอื่นๆถ้ามีการระบาด?หรือ?พบ?ปัญหา?ก็?สามารถ?พิจารณา?ทำ?ใด้?เช่นกัน?แต่?ทั้งนี้?ควร?ปรึกษา?ผู้?ที่?มี?ประสบการณ์? เพื่อ?ชี้?แนะ?แนวทาง?ใน?การ?วาง?โปรแกรม?วัคซีน?อย่าง?เหมาะสม?  

       ก่อนจะทำวัคซีนเราก็ต้องมาทำความรู้จักมันก่อนว่าวัคซีนคืออะไร .... วัคซีน ไม่ใช่ยา ไม่ใช่ วิตามิน แต่มันคือ เชื้อโรค ที่ได้จากเชื้อจุลชีพรวมทั้งสารพิษของเชื้อซึ่ง  กระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน     เพื่อต่อต้านการเกิดโรค

         #แล้วถ้าเราฉีดวัคซีนเข้าไปในร่างกายหมูล่ะจะเกิดอะไรขึ้นซึ่งหลักการทั่วไปของวัคซีนจะเป็นแบบดังต่อไปนี้

       วัคซีน จะกระตุ้นให้เกิดการสร้าง ชนิดของภูมิคุ้มกันโรค ที่มีความจำเพาะต่อการป้องกันโรค พูดง่ายๆคือ ถ้าเราฉีดอหิวาต์? ร่างกายก็จะกระตุ้นให้สร้างภูมิป้องกันโรคอหิวาต์ ฉีดพิษสุนัขบ้าก็จะใด้ภูมิป้องกันพิษสุนัขบ้า
วัคซีนจะกระตุ้นให้เกิดการสร้างภูมิคุ้มกันที่มีความจำเพาะแอนติเจนของเชื้อ  ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการก่อโรค เอาให้เข้าใจง่ายๆในส่วนนี้?คือ ยกตัวอย่าง ถ้าเราทำวัคซีน ปาก เท้าเปื่อย ไทป์ A  ร่างกายก็จะกระตุ้นการสร้างภูมิเฉพาะ ไทป์A  ไม่สามารถครอบครุมถึงไทป์ O หรือ asia 1
 อีกนัยคือ ทำไทป์ไหนใด้ภูมิไทป์นั้น

     #แล้ววัคซีนมีกี่ชนิด อืมม????เป็นคำถามที่น่าคิด
ชนิดของวัคซีนที่พบเห็นกันมี2ชนิดได้แก่

1.วัคซีนเชื้อเป็น?  คือ? วัคซีนที่ได้จากเชื้อที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่ทำให้อ่อนกำลังลงไม่สามารถที่ทำให้ก่อโรคได้ เมื่อฉีดเข้าไปในร่างกาย  จะ?ทำให้มีกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกัน?ต่อ?โรค?นั้น?ๆ?  วัคซีนเชื้อเป็น?   จะสร้าง?ภูมิ?คุ้มกัน?อยู่ในร่างกายได้สั้นกว่า?  วัคซีน?เชื้อ?ตาย? ทำให้ต้อง?มี?การ?ฉีด?ซ้ำ?เพื่อ?กระตุ้น?ภูมิคุ้มกัน... 

2.วัคซีนเชื้อตาย คือวัคซีนที่ได้จากเชื้อที่ตายแล้ว แต่มีส่วนของแอนติเจนซึ่งเป็นโปรตีนเหลืออยู่ ทำให้สามารถกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มโรคได้ เช่น   กันดังนั้นวัคซีนชนิดนี้จะใช้เวลากระตุ้นภูมิคุ้มนานกว่า แต่จะอยู่ในร่างกายได้นานกว่าวัคซีนเชื้อเป็นและต้องมีการฉีดซ้ำเมื่อถึงระยะเวลาที่โปรตีนที่เป็นแอนติเจนเสื่อมสลายไป

         แล้วหลักการให้ล่ะเราจะให้ได้ยังไงบ้าง ช่วงไหนควรให้ช่วงไหนไม่ควรให้

          #หลักการทั่วไปในการให้วัคซีน

1.กรณีเจ็บป่วยเล็กน้อย เช่น เป็นหวัด หรือ ไอ สามารถให้วัคซีนได้ แต่ถ้ากำลังมีไข้สูง ควรหลีกเลี่ยงการฉีดจนกว่าจะหายไข้
 2.การให้วัคซีนในลูกสัตว์ต้องคำนึงว่าหากลูกสัตว์ได้รับภูมิคุ้มจากแม่ ตั้งแต่แรกเกิด จะต้องรอให้ระยะเวลาที่ภูมิคุ้มนี้หมดไป ก่อนที่จะมีการใช้วัคซีน นอกจากนี้เมื่อใช้วัคซีนแล้ว จำเป็นต้องมีการกระตุ้นซ้ำ

3. กรณีที่ต้องให้วัคซีนเชื้อเป็นพร้อมกัน ควรให้คนละตำแหน่ง
 4.โดยทั่วไปภูมิคุ้มจะสร้างขึ้นจนถึงระดับที่ป้องกันโรคได้ หลังจากฉีด   15 วัน

5. หากต้องการให้วัคซีนโรคอื่นเข็มต่อมา ควรเว้นระยะเวลาอย่างน้อย  1- 2 อาทิตย์ 
แล้วแต่ข้อกำหนดของบริษัทผู้ผลิต ต้องอ่านเอกสารการใช้ให้เข้าใจ

        #โปรแกรมวัคซีนเราต้องให้อะไรบ้าง
         ในที่นี้จะพูดถึงวัคซีนสำหรับรายย่อยก่อน
วัคซีนที่เป็นพื้นฐาน และสำคัญ  เพราะเพื่อนๆในที่นี้ส่วนมากเป็นเกษตกรรายย่อยสำหรับฟาร์มขนาดใหญ่ กลาง คงเซทโปรแกรมใว้เองอยู่แล้ว แต่ถ้าจะแบ่งปันก็เป็นการดี
         #ในแม่พันธุ์ พ่อพันธุ์
 วัคซีน   AD พิษสุนัขบ้าเทียม
- ในพ่อแม่พันธุ์จะปูพรม ทุกๆ 4 เดือน
-ในลูกสุกรนั้น ถ้าพื้นที่มีการระบาดให้ทำ 2ครั้งคือ
AD 1.  ทำที่ 8week 
AD 2.ทำที่ 10 Week 

วัคซีน อหิวาต์ (sfv) 
-พ่อพันธุ์ทำทุกๆ 4เดือน
-แม่พันธุ์ ทำพร้อม ลูกหลังคลอดใน สัปดาห์ที่3 หรือ 21วัน

วัคซีน ปากเท้าเปื่อย(FMD) 
-ในแม่พันธุ์ พ่อพันธุ์ ทำทุกๆ4เดือน
- ในลูกสุกร แนะนำให้ทำ2 เข็ม เพื่อให้ครอบครุมถึงระยะขุนคือทำที่
  FMD 1. ทำที่อายุ 9สัปดาห์
  FMD2. ทำที่ อายุ 15สัปดาห์
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการระบาดในพื้นที่
 สำหรับวัคซีนกลุ่มพิเศษนั้นราคาค่อนข้างแพงสำหรับรายย่อยจะเลือกทำหรือไม่นั้นให้พิจรณาถึงความคุ้มทุนและความรุนแรงของการระบาดในพื้นที่ ก่อนอื่นขอใช้ตัวย่อดังนี้ จะใด้เข้าใจตรงกัน
Mh+=วัคซีนไมโครพลาสม่า
AD =พิษสุนัขบ้าเทียม
SFv=อหิวาต์
 FMD =ปากเท้าเปื่อย
Pcv =เซอโคไวรัส
Prrs=เพิท
Pavo=โรคมัมมี่ หรือ พาโวไวรัส

#โปรแกรมวัคซีนในลูกสุกร
อายุ 2สัปดาห์=pcv+mh
อายุ 3 สัปดาห์=sfv 
อายุ5สัปดาห์=mh
อายุ6สัปดาห์=sfv 
อายุ7สัปดาห์=AD 1
อายุ9สัปดาห์=AD 2
อายุ10สัปดาห์=FMD 1
อายุ13สัปดาห์=FMD 2

         #หรือ

3 w. =mh+sfv
4w. =AD 1
5w. =mh+sfv
6w. =AD 2
8w. =FMD1
10w. =FMD 2

แล้วแต่จะเลือกใช้ ส่วนตัววัคซีน prrs นั้นมีข้อจำกัดหลายอย่างในการทำ มันซับซ้อนก่อนทำต้องตรวจเลือดหาค่าไตเตอร์ของเลือด จึงไม่ขอกล่าวถึงในที่นี้ แต่โดยทั่วไปฟาร์มใหญ่ๆ จะปูพรมในแม่พันธุ์ และลูกสุกรจะทำที่อายุ 2สัปดาห์ ใครอยากทำลองไปหาข้อมูลจากบริษัทผู้ผลิตเอาเด้อ

#ทีนี้มาถึงโปรแกรมวัคซีนในแม่สุกรสาว

อายุ 5เดือน=sfv 
อายุ5เดือนครึ่ง=AD 
อายุ 6เดือน=fmd 
อายุ 6เดือนครึ่ง=pavo ใวรัส
อายุ7เดือน=  pavo 2

โปรแกรมทั้งหมดนี้ไม่ใช่สูตรตายตัวสามารถปรับใช้ตามการระบาดและความเหมาะสมนะจ๊ะ

ส่วนเรื่องราคานั้นขอแนะนำนะครับบางตัวแพงมาก ให้คำนึงถึงความเหมาะสมในการซื้อมาใช้

Sfv=โดสละ?5บาท
Fmd =โดสละ 20บาท
AD =โดสละ 5บาทถ้าแล้วแต่บริษัท
Mh= โดสละ20บาท
Pcv =โดสละ50บาท
Prrs=โดสละ80บาท
        ราคาขึ้นลงตามข้อกำหนดของแต่ละบริษัท

จาก : sak - [1/06/2563 เวลา: 13:19:03] ข่าวนี้ไม่มีไฟล์แนบครับ